Friday, August 13, 2010

ใครว่าอยู่เมืองนอกสบาย

โดย บันจงสัณห์ วิญญรัตน์ น.บ., น.ม., M.B.A.(U.S.A.) ทนายความ (banjongsan@gmail.com)

สมัยตอนที่ผมยังเป็นนักศึกษาปริญญาโท ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มลรัฐแคริฟอร์เนีย เมืองลอสแอลเจลลิส เมืองที่มีคนไทยไปตั้งหลักแหล่ง เปิดร้านค้า มากที่สุดในประเทศอเมริกาแห่งหนึ่งครับ บ้างก็ว่าเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยไปเลยก็มีครับ แต่ก็เป็นเรื่องแปลกนะครับ Los แปลว่าเมือง Angeles แปลว่า พวกเทวดา เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับ กรุงเทพมหานคร ก็มีความหมายเดียวกันครับ (เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ) ว่า เป็นเมืองสำหรับพวกเทวดาอาศัยอยู่ครับ สำหรับท่านผู้อ่านจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็พิจารณาเอานะครับ
ผมได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตที่นั่นในปี 2532-2533 ประมาณนี้ครับ พักอยู่แถวๆ ย่านผู้ดีครับ ถนน Edenhurst Ave., ย่าน Glendale ครับ แถวๆถนนต่อไปยัง ถนนซันเซตและฮอลลีวูด ต่อเนื่องไปก็จะเป็นย่าน Beverly Hill ครับ ย่านดังของพวกดาราครับ
ไปแรกๆ ก็ต้องหัดขึ้นรถเมล์ก่อนครับ ยังไม่มีรถขับ เพราะต้องไปสอบใบขับขี่ให้ได้ก่อนครับ สุดท้ายก็ต้องขวนขวาย หาใบขับขี่รถยนต์ และต้องไปทำ I.D. Card ซึ่งการสอบใบอนุญาตขับขี่ สมัยนั้น ปี 2531 มีข้อสอบเป็นภาษาไทยครับ คล้ายกับบ้านเราครับ โดยสอบทฤษฎี และปฏิบัติ ผมโชคดีที่สอบครั้งเดียวผ่าน ก็ได้ใบขับขี่มาใช้ครับ
ตั้งแต่ขับรถยนต์ใน แอลเอ เคยถูกจับครั้งเดียวในรอบปีครึ่งที่อยู่ที่นั่นครับ คือฝ่าไฟแดง ที่อเมริกา ต้องขึ้นศาลจราจรครับ ไปเสียค่าปรับที่นั่น ผมรับสารภาพ จึงถูกปรับ และต้องไปนั่งเรียนระเบียบจราจรครับ จำไม่ได้ว่าต้องไปเรียนกี่ครั้งครับ ไม่เหมือนกับบ้านเราครับ ที่เสียค่าปรับที่ตำรวจ จบเลย คนถึงไม่เข็ดครับ ที่นั่นขึ้นศาลอย่างเดียวครับ ตำรวจมีเพียงหน้าที่จับ เท่านั้น ไม่มีอำนาจสั่งปรับครับ
ที่ผมชอบมากคือว่า ในบ้านเมืองของเขาเนี่ยะ เวลาขับรถไปถึงสี่แยกนะครับ รถทุกคันต้องหยุด เพื่อดูว่า แยกที่เหลือนั้น มีรถคันอื่นจอดรออยู่ก่อนแล้วหรือไม่ครับ หากมีรถคันอื่นจอดรถอยู่ก่อน ต้องปล่อยให้เข้าไปก่อนครับ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่า ใครมาจอดที่สี่แยกก่อน ก็ได้สิทธิไปก่อนครับ ประเทศเขาปฏิบัติกันเป็นประเพณีกันเลยครับ เป็นระเบียบกันดีเหลือเกินครับ ตรงนี้ผมชอบมาก บอกได้ว่าประทับใจที่สุดครับ

ราคารถยนต์ที่นั่น แตกต่างกับประเทศไทยเราราวฟ้ากับดินครับ บ้านเขา ตอนนั้น ผมเคยเทียบรถยี่ห้อเดียวกัน ปี รุ่นเดียวกัน ปรากฏว่า ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น สมมติว่าราคา 10,000 บาท ก็จะเท่ากับราคาในบ้านเรา 100,000 บาทครับ เอาสิบคูณ เป็นรู้ราคาที่เมืองไทยครับ ดังนั้น หากอยู่เมืองไทยขับรถคันละล้านที่บ้านเขา ก็ราคาแค่ 100,000 บาทครับ แต่ต้องซื้อประกันทุกคันนะครับ นี่ขนาดราคารถบ้านเขาถูกกว่าของเราไม่รู้จะกี่เท่าครับ ถ้าคิดไม่ผิดก็ประมาณสิบเท่าครับ นี่เป็นการเปรียบเทียบราคา ในสมัยปี 2533 ครับ หรือประมาณ สิบกว่าปีมาแล้วครับ ไม่รู้ตอนนี้เป็นไงบ้างครับ ใครทราบก็แสดงความคิดเห็นได้นะครับ

Home Remedies For Wrinkles

No comments:

Post a Comment