ความเป็นมาของหลักการควบคุม
และจัดการ
กิจการหรือทรัพย์สินของคนต่างด้าว
และการก่อการร้ายในประเทศไทย
1. ความหมายของคนต่างด้าว
คนต่างด้าวตามความหมายของพจนานุกรมไทย
ได้แยกการให้คำจำกัดไว้ โดยให้ความหมายของคำว่า “คน”
ซึ่งเป็นคำนาม หมายความว่า มนุษย์[1] และคำว่า “ต่างด้าว”
ซึ่งเป็นคำวิเศษณ์ หมายความว่า ชาวต่างประเทศที่มีถิ่นฐานอยู่อีกประเทศหนึ่ง[2] หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คนต่างด้าว
ก็คือ คนต่างประเทศไม่มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย ตามความหมายของพจนานุกรมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม
ความหมายดังกล่าวข้างต้น ก็ยังไม่ได้ให้ความกระจ่างชัด
ในคำจำกัดความทางด้านกฎหมายแต่อย่างใด หรืออาจกล่าวได้ว่า
เป็นเพียงความหมายที่ใช้พูด เจรจา ทั่วๆไปในสังคมเท่านั้น ดังนั้น “คนต่างด้าว” ในความหมายทางนิติศาสตร์*
จึงต้องไปดูที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว (ซึ่งรายละเอียด
ผู้เขียนได้รวบรวมไว้ในบทที่ 3) กล่าวคือ.-
ความหมายของ “คนต่างด้าว” ตามพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 ได้ให้นิยาม คำว่า “คนต่างด้าว” หมายความว่า
คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ[1] ตามกฎหมายฉบับนี้
ก็ให้ความหมายถึงคนต่างด้าวเฉพาะคนหรือบุคคลธรรมดาเท่านั้น
ทั้งยังได้อ้างถึงกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ จึงต้องไปดูว่า
ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาตินั้นได้ให้ความหมายของคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
ว่าอย่างไรหรืออีกนัยหนึ่งได้ให้ความหมายของคนต่างด้าวไว้ว่าอย่างไร
ความหมายของ “คนต่างด้าว” ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 ได้ให้นิยามคำว่า “คนต่างด้าว” หมายความว่า ผู้ซึ่งมิได้มีสัญชาติไทย[2] และบทบัญญัติต่างๆในมาตรานี้ ก็เกี่ยวข้องกับการได้สัญชาติไทย
การเสียสัญชาติไทย การแปลงสัญชาติไทย การถอนสัญชาติไทย เป็นต้น
ไม่ได้มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับความเป็นนิติบุคคลของคนต่างด้าว แต่อย่างใด กล่าวคือ
ให้ความหมายแต่เพียง บุคคลธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้รวมไปถึงนิติบุคคล, องค์การต่างๆ
หรือแม้กระทั่งคณะบุคคล
ความหมายของ “คนต่างด้าว” ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ได้ให้นิยามคำว่า “คนต่างด้าว” หมายความว่า
บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย[3]
ความหมายของ “คนต่างด้าว” ตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2521 ได้ให้คำนิยามไว้ว่า “คนต่างด้าว” หมายความว่า
บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย [4] ซึ่งก็ไม่รวมถึงนิติบุคคล หรือองค์การต่างๆ ที่ไม่มีสัญชาติไว้ด้วย
ความหมายของ
“คนต่างด้าว” ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542
ก็ได้ให้คำจำกัดความ ความหมายของคำว่า “คนต่างด้าว” ไว้หมายความถึง
1)
บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
2)
นิติบุคคลซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย
3) นิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย
และมีลักษณะดังต่อไปนี้ (ก) นิติบุคคลซึ่งมีหุ้นอันเป็นทุนตั้งแต่กึ่งหนึ่งของนิติบุคคลนั้นถือโดยบุคคลตาม
(1) หรือ (2) หรือนิติบุคคลซึ่งมีบุคคลตาม (1) หรือ (2)
ลงทุนมีมูลค่าตั้งแต่กึ่งหนึ่งของทุนทั้งหมดในนิติบุคคลนั้น
(ข) ห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียน
ซึ่งหุ้นส่วนผู้จัดการหรือผู้จัดการเป็นบุคคลตาม (1)
4) นิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย
ซึ่งมีหุ้นอันเป็นทุนตั้งแต่กึ่งหนึ่งของนิติบุคคลนั้นถือโดยบุคคลตาม (1)(2) หรือ
(3) หรือนิติบุคคลซึ่งมีบุคคลตาม (1)(2) หรือ (3) ลงทุนมีมูลค่าตั้งแต่กึ่งหนึ่งของทุนทั้งหมดในนิติบุคคลนั้น[1]
ความหมายของ “คนต่างด้าว” ตามพระราชบัญญัติการเนรเทศ พ.ศ.2499
ก็ได้ให้คำจำกัดความ ความหมายของคำว่า “คนต่างด้าว” ไว้หมายความว่า ผู้ที่มิได้มีสัญชาติไทย[2]
ความหมายของ “คนต่างด้าว” ตามพระราชบัญญัติควบคุมและจัดการ กิจการหรือทรัพย์สินคนต่างด้าว บางจำพวก
ในภาวะคับขัน พ.ศ.2484
ที่ผู้เขียนได้ให้ความสนใจในการศึกษาเป็นกฎหมายหลักของการศึกษาอิสระฉบับนี้
ถึงแม้จะไม่ได้บัญญัติคำนิยามคำว่า “คนต่างด้าว” ไว้เฉพาะก็ตาม
แต่ในบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวก็ได้ให้คำขยายความของคำว่า “คนต่างด้าว” ไว้ว่า คนต่างด้าวนั้น นอกจากบุคคลธรรมดา ให้หมายความรวม ตลอดถึง มูลนิธิ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียนและมิได้จดทะเบียน และองค์การรูปอื่นใด แม้จะมิได้เป็นนิติบุคคล หรือเป็นนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทย แต่ได้กระทำการ เพื่อประโยชน์แก่คนต่างด้าวนั้น[3]
[1] พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
พ.ศ.2542, มาตรา 4.
[2] พระราชบัญญัติการเนรเทศ พ.ศ.2499, มาตรา
4.
[3] พระราชบัญญัติควบคุมและจัดการ
กิจการหรือทรัพย์สินคนต่างด้าว บางจำพวก ในภาวะคับขัน พ.ศ.2484, มาตรา 6 วรรคสอง.
[1] พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว
พ.ศ.2493, มาตรา 4.
[2] พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508, มาตรา 4.
[3] พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522,
มาตรา 4.
[4] พระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว
พ.ศ.2521, มาตรา 5.
*เป็นที่สังเกต ว่ารัฐธรรมนูญไทย 2540 ฉบับปัจจุบัน
ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด เป็นกฎหมายแม่บท
ไม่ได้ให้คำจำกัดความของคนต่างด้าวไว้แต่อย่างใด.
No comments:
Post a Comment