Friday, November 30, 2012

อำนาจประชาธิปไตย

มองเตสกิเออ แยกอำนาจรัฐ(ประเทศ) ออกเป็นสามฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ 
และ่ฝ่ายตุลาการ ทั้งนี้เพื่อการตรวจสอบ และถ่วงดุล 

การตรวจสอบและถ่วงดุล ต้องไม่มีการแทรกแซง มิฉะนั้น การตรวจสอบ และถ่วงดุล
ก็ไม่เกิดประสิทธิภาพ 

การเลือกตั้งเป็นเพื่อส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย แต่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในระบบนี้

ระบอบยุติธรรมไทย มีสี่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ได้แก่  ตำรวจ, อัยการ/ทนายความ, ศาล และราชทัณฑ์

ระบบยุติธรรมไทย ถูกผูกขาด ประชาชนๆ ไม่มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และถ่วงดุล
นับว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ตามแนวคิดมองเตสกิเออ 

เห็นควรให้รัฐสภาเข้ามาตรวจสอบและถ่วงดุลย์ กับอำนาจยุติธรรมตั้งแต่ตำรวจ(จับกุม-สอบสวน)
อัยการ/ทนายความ(ฟ้อง/สู้คดี)ศาล (ตัดสินคดี) และราชทัณฑ์

แต่ก่อนที่รัฐสภาจะเข้ามาถ่วงดุลย์ ตรวจสอบระบบยุติธรรมไทยนั้น รัฐสภา
 ก็ต้องแยกออกจากฝ่ายบริหารแบบเบ็ดเสร็จเสียก่อน

ฝ่ีายบริหารต้องแยก(ป้องกันแทรกแซง)จากฝ่ายบริหาร โดยให้ เลือกตั้งฝ่ายบริหาร
 ต่างหากจากฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างชัดเจน

ฝ่ายนิติบัญญัติ-รัฐสภา ควรต้องแยกออกจากฝ่ายบริหารรัฐบาลอย่างเด็ดขาด ระบอบประชาธิปไตย 
โดยแยกการเลือกตั้ง ให้มีการเลือกตั้งฝ่ายบริหารโดยเฉพาะ

ฝ่ายนิติบัญญัติ (รัฐสภา) จะสเถียร ไม่มีการแทรกแซง กันและกันกับฝ่ายบริหาร(รัฐบาล) 
ตามแนวคิดประชาธิปไตย เพราะฝ่ายบริหารเกี่ยวกับเงินมหาศาล

เมื่อแยกอำนาจอธิปไตยอย่างเด็ดขาดแล้ว ค่อยนำมาถ่วงดุล กันและกัน ตามแนวคิดประชาธิปไตย

ทุกฝ่ายกระทำการภายใต้กฎหมายๆ ซึ่งออกโดยฝ่ายรัฐสภา แต่ ณ ปัจจุบัน ฝ่ายรัฐสภา
 ไม่ค่อยได้สนใจพิจารณากฎหมาย แต่ไปสนใจการเมือง การอภิปรายแทน

หากทั้งสามฝ่ายแยกกันแบบเด็ดขาด ไม่มีแทรกแซง และสามารถ่วงดุลอำนาจกันได้ เมื่อใดนั้น 
จึงจะเีรียกได้ว่า ประชาธิปไตย อย่างแท้จริง 


Home Remedies For Wrinkles

No comments:

Post a Comment