มองเตสกิเออ แยกอำนาจรัฐ(ประเทศ) ออกเป็นสามฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ
และ่ฝ่ายตุลาการ ทั้งนี้เพื่อการตรวจสอบ และถ่วงดุล
การตรวจสอบและถ่วงดุล ต้องไม่มีการแทรกแซง มิฉะนั้น การตรวจสอบ และถ่วงดุล
ก็ไม่เกิดประสิทธิภาพ
การเลือกตั้งเป็นเพื่อส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย แต่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในระบบนี้
ระบอบยุติธรรมไทย มีสี่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ได้แก่ ตำรวจ, อัยการ/ทนายความ, ศาล และราชทัณฑ์
ระบบยุติธรรมไทย ถูกผูกขาด ประชาชนๆ ไม่มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และถ่วงดุล
นับว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ตามแนวคิดมองเตสกิเออ
เห็นควรให้รัฐสภาเข้ามาตรวจสอบและถ่วงดุลย์ กับอำนาจยุติธรรมตั้งแต่ตำรวจ(จับกุม-สอบสวน)
อัยการ/ทนายความ(ฟ้อง/สู้คดี)ศาล (ตัดสินคดี) และราชทัณฑ์
แต่ก่อนที่รัฐสภาจะเข้ามาถ่วงดุลย์ ตรวจสอบระบบยุติธรรมไทยนั้น รัฐสภา
ก็ต้องแยกออกจากฝ่ายบริหารแบบเบ็ดเสร็จเสียก่อน
ฝ่ีายบริหารต้องแยก(ป้องกันแทรกแซง)จากฝ่ายบริหาร โดยให้ เลือกตั้งฝ่ายบริหาร
ต่างหากจากฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างชัดเจน
ฝ่ายนิติบัญญัติ-รัฐสภา ควรต้องแยกออกจากฝ่ายบริหารรัฐบาลอย่างเด็ดขาด ระบอบประชาธิปไตย
โดยแยกการเลือกตั้ง ให้มีการเลือกตั้งฝ่ายบริหารโดยเฉพาะ
ฝ่ายนิติบัญญัติ (รัฐสภา) จะสเถียร ไม่มีการแทรกแซง กันและกันกับฝ่ายบริหาร(รัฐบาล)
ตามแนวคิดประชาธิปไตย เพราะฝ่ายบริหารเกี่ยวกับเงินมหาศาล
เมื่อแยกอำนาจอธิปไตยอย่างเด็ดขาดแล้ว ค่อยนำมาถ่วงดุล กันและกัน ตามแนวคิดประชาธิปไตย
ทุกฝ่ายกระทำการภายใต้กฎหมายๆ ซึ่งออกโดยฝ่ายรัฐสภา แต่ ณ ปัจจุบัน ฝ่ายรัฐสภา
ไม่ค่อยได้สนใจพิจารณากฎหมาย แต่ไปสนใจการเมือง การอภิปรายแทน
หากทั้งสามฝ่ายแยกกันแบบเด็ดขาด ไม่มีแทรกแซง และสามารถ่วงดุลอำนาจกันได้ เมื่อใดนั้น
จึงจะเีรียกได้ว่า ประชาธิปไตย อย่างแท้จริง
Chiang Mai Lawyer-Solicitor Chiang Rai Lawyer-Solicitor (St.-Cm. Law Firm) Since 1992 AREA OF PRACTICE Divorce Child Custody Family Law Notary Public Property Company Setup Testament Litigation Criminal Defense Civil Law Tel. 086-4293063, 082-1907466, 088-2516286 Fax: 053-718923 E-Mail: cmlawfirm@hotmail.com, banjonsanlawyer@gmail.com Line ID: 0864293063 Offices: Chiang Rai - Chiang Mai (Hot: chiang mai lawyer-chiang mai solicitor-chiang rai lawyer-chiang rai solicitor)
Friday, November 30, 2012
Friday, November 23, 2012
ละเมิดอำนาจศาล-พรบ.ทนายความ-ประพฤติมิชอบ หรือไม่
การหาลูกความของทนายความบางคน ที่หากินหาลูกความอยู่บริเวณ แถวๆ ห้องขังของศาล
และอาศัยการรู้จักกับตำรวจศาลบางคน ที่คอยแนะนำจำเลย/ผู้ต้องขัง
ที่ถูกนำมาศาล และยังไม่มีทนายความ เรียกเงินจากญาติๆจำเลย เพื่อให้ดำเนินการประกันตัว
(ทั้งที่ติดต่อประชาสัมพันธ์ศาลๆ ก็จะดำเนินการให้ฟรีอยู่แล้ว
)และทำคดีให้ เข้าแทรกแซง แย่งคดี พูดจาหว่านล้อม เรียกรับเงิน ญาติ จำเลยแม้คดีรับสารภาพก็ยังพูดจา หว่านล้อม ให้แต่งทนายความเรียกเงินค่าทนายความ บริเวณศาล
ทั้งที่จำเลยสามารถขอศาลตั้งทนายขอแรงให้ฟรี
บุคคลเหล่านี้ น่าจะมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล และหากเป็นทนายความอาจผิดมรรยาท
ทนายความ มีโทษถึงถูกถอนใบอนุญาต หากเป็นเจ้าหน้าที่อาจมีความผิดถึงขั้น ประพฤติมิชอบ
อีกโสดหนึ่ง
ขอท่านหัวหน้าศาล ได้โปรดกำจัดพวกเหล่านี้ ออกไปจากวงการยุติธรรม เพื่อยกระดับศรัทธา
ประชาชนที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมไทย กลับมา
ด้วยความเคารพต่อศาล และสภาทนายความ เห็นควรดำเนินการจัดการอย่างเด็ดขาด
ควบคู่ไปกับการ การบริหารจัดการด้านการให้บริการการดำเินินการยื่นคำร้องขอประกัน และจัดทนายความขอแรงให้จำเลย และญาติๆ ได้เข้าถึงอย่างจริงจัง และสะดวกรวดเร็ว
ศรัทธาประชาชนอยู่แค่เอื้อมครับ
Thursday, November 22, 2012
Thursday, November 8, 2012
คดีล่อซื้อยาบ้า
ล่อซื้อโดยสายลับที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ชุดสืบสวนไม่ได้ซุ่มดูการล่อซื้อ
เพื่อประสิทธิภาพ และป้องกันข้อครหาการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
คดีอาญา ล่อซื้อยาบ้า จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุม และสอบสวน
แต่ให้การปฏิเสธชั้นศาล
ชั้นศาลจำเลยสู้ว่า ไม่ได้กระทำความผิด ที่รับสารภาพเพราะถูกตำรวจที่จับกุมข่มขู่
ว่าถ้าไม่รับจะฆ่าทิ้งเสีย
ข้อเท็จจริงมีว่า ตำรวจชุดสืบสวน เอาเงินสามพันให้สายลับ ไปซื้อยาบ้ามาให้ หรือ
ให้ไปล่อซื้อ โดยก่อนนำเงินให้สายลับ จะถ่ายเอกสาร และลงบันทึก ปจว.ไว้ที่โรงพัก
ต่อมาจึงมอบเงินให้สายลับไปล่อซื้อยาบ้า จากจำเลย ....
พอขึ้นศาล พยานมีแต่ตำรวจชุดจับกุม และพนักงานสอบสวน ซึ่งกลับเป็นพยานบอกเล่า
ทั้งสิ้น ประกอบคำรับสารภาพชั้นจับกุม และสอบสวนของจำเลย ....
คดีนี้ ปรากฎว่าศาลชั้นต้นได้โปรดมีคำพิพากษา ยกฟ้องปล่อยตัวจำเลยไปครับ
พนักงานอัยการฯ อุทธรณ์ คงต้องฟังผลคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ต่อไป
เพื่อประสิทธิภาพ และป้องกันข้อครหาการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
คดีอาญา ล่อซื้อยาบ้า จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุม และสอบสวน
แต่ให้การปฏิเสธชั้นศาล
ชั้นศาลจำเลยสู้ว่า ไม่ได้กระทำความผิด ที่รับสารภาพเพราะถูกตำรวจที่จับกุมข่มขู่
ว่าถ้าไม่รับจะฆ่าทิ้งเสีย
ข้อเท็จจริงมีว่า ตำรวจชุดสืบสวน เอาเงินสามพันให้สายลับ ไปซื้อยาบ้ามาให้ หรือ
ให้ไปล่อซื้อ โดยก่อนนำเงินให้สายลับ จะถ่ายเอกสาร และลงบันทึก ปจว.ไว้ที่โรงพัก
ต่อมาจึงมอบเงินให้สายลับไปล่อซื้อยาบ้า จากจำเลย ....
พอขึ้นศาล พยานมีแต่ตำรวจชุดจับกุม และพนักงานสอบสวน ซึ่งกลับเป็นพยานบอกเล่า
ทั้งสิ้น ประกอบคำรับสารภาพชั้นจับกุม และสอบสวนของจำเลย ....
คดีนี้ ปรากฎว่าศาลชั้นต้นได้โปรดมีคำพิพากษา ยกฟ้องปล่อยตัวจำเลยไปครับ
พนักงานอัยการฯ อุทธรณ์ คงต้องฟังผลคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ต่อไป
ละเมิด (ค่าเสียหายเชิงลงโทษ) Tort (Punitive Damages)
กฎหมายอเมริกา ผู้เสียหายจากคดีละเมิดสามารถเรียกค่าเสียหายตามความ
จริง และค่าเสียหายเพื่อการลงโทษได้ (Punitive Damages)
ซึ่งแตกต่างกับของประเทศไทย ที่เรียกได้เฉพาะค่าเสียหายที่เสียไปจริง ในทางปฏิบัติ แล้ว
ฝ่ายที่เสียหาย ก็ต้องพิสูจน์เรื่องค่าเสียหาย เช่น ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ เป็นต้น
ต้องแสดงใบเสร็จรับเงิน, ผู้รับเงิน, แพทย์ กว่าจะได้เงิน ซึ่งย่อมไม่คุ้มค่า
กับการที่ต้องสูญเสีย หรือเสียหาย บ้างก็ท้อแท้ ปล่อยไปตามกรรม
ทำให้ประเทศไทยเรามีการละเมิด ไม่ว่าทั้งทางร่างกาย จิตใจ อยู่ทุกวี่วัน
ผมได้ทำคดีหนึ่ง ฝ่ายหญิงเป็นชาวอเมริกัน ฝ่ายชายเป็นอังกฤษ ฝ่ายหญิง
ซึ่งเป็นภริยาจดทะเบียนสมรส ถูกชายสามีทำร้ายสาหัส ที่เมืองไทย
สามีว่า นี่เมืองไทย ไม่ใช่อเมริกา ว่างั้น
สาเหตุหลักที่ สหรัฐ ไม่ค่อยมีการละเมิดกัน อาจเป็นเพราะจ่ายแพง
ไม่มีใครกล้าทำละเมิดใคร สิทธิบุคคลได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มเปี่ยม
แต่เมืองไทย ละเมิดกัน ทำร้ายกัน ปางตาย ได้เงินหมื่นเงินแสนนับว่าบุญโข....
สหรัฐ..แค่ทำกาแฟหกใส่ตักเข้า จ่ายเป็นสิบ เป็นร้อยล้านดอลล่าร์
ด้วยความเคารพในกฎหมายบ้านเมืองไทยเรื่องละเมิด ณ เวลานี้
ผมไม่เห็นด้วยจริงๆ ที่ไม่มีการนำหลักการ ชดใช้ค่าเสียหายในเชิงลงโทษ
มาใช้กับประเทศเรา
จริง และค่าเสียหายเพื่อการลงโทษได้ (Punitive Damages)
ซึ่งแตกต่างกับของประเทศไทย ที่เรียกได้เฉพาะค่าเสียหายที่เสียไปจริง ในทางปฏิบัติ แล้ว
ฝ่ายที่เสียหาย ก็ต้องพิสูจน์เรื่องค่าเสียหาย เช่น ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ เป็นต้น
ต้องแสดงใบเสร็จรับเงิน, ผู้รับเงิน, แพทย์ กว่าจะได้เงิน ซึ่งย่อมไม่คุ้มค่า
กับการที่ต้องสูญเสีย หรือเสียหาย บ้างก็ท้อแท้ ปล่อยไปตามกรรม
ทำให้ประเทศไทยเรามีการละเมิด ไม่ว่าทั้งทางร่างกาย จิตใจ อยู่ทุกวี่วัน
ผมได้ทำคดีหนึ่ง ฝ่ายหญิงเป็นชาวอเมริกัน ฝ่ายชายเป็นอังกฤษ ฝ่ายหญิง
ซึ่งเป็นภริยาจดทะเบียนสมรส ถูกชายสามีทำร้ายสาหัส ที่เมืองไทย
สามีว่า นี่เมืองไทย ไม่ใช่อเมริกา ว่างั้น
สาเหตุหลักที่ สหรัฐ ไม่ค่อยมีการละเมิดกัน อาจเป็นเพราะจ่ายแพง
ไม่มีใครกล้าทำละเมิดใคร สิทธิบุคคลได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มเปี่ยม
แต่เมืองไทย ละเมิดกัน ทำร้ายกัน ปางตาย ได้เงินหมื่นเงินแสนนับว่าบุญโข....
สหรัฐ..แค่ทำกาแฟหกใส่ตักเข้า จ่ายเป็นสิบ เป็นร้อยล้านดอลล่าร์
ด้วยความเคารพในกฎหมายบ้านเมืองไทยเรื่องละเมิด ณ เวลานี้
ผมไม่เห็นด้วยจริงๆ ที่ไม่มีการนำหลักการ ชดใช้ค่าเสียหายในเชิงลงโทษ
มาใช้กับประเทศเรา
Subscribe to:
Posts (Atom)